1.แอร์บ้านไม่เย็น แอร์เย็นไม่ฉ่ำ ซ่อมแอร์บ้าน ล้างแอร์บ้าน
" ปกติแอร์มันก็เย็น พอมาวันนี้อยู่ๆมันก็ไม่เย็น มันมีแต่ลม เย็นไม่ฉ่ำ" สาเหตุจัดไปตามลำดับ
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจ คือ สภาพห้องใหญ่เกินกำลังบีทียูหรือไม่ หรือว่าพอดีเป๊ะ  ครั้นพอเจออากาศร้อนมากๆก็เอาไม่อยู่ โดยเฉพาะห้องที่มีผนังโดนแดดจะร้อนมากขึ้นและร้อนนาน อันเป็นสาเหตุทำให้แอร์เย็นไม่ฉ่ำและทำให้คอมแอร์ทำงานหนักมากขึ้น  ค่าไฟฟ้าก็จะสิ้นเปลืองมากขึ้น   แต่หากไม่ใช่สาเหตุนี้ ก็ไปดูข้อต่อไป
ตรวจเช็คสภาพการทำงานของระบบแอร์บ้านว่าปกติหรือไม่ ดังนี้
1 -เมื่อเปิดรีโมทแอร์ให้ตรวจเช็คไฟแสดงการทำงานถูกต้องไหม.. การทำงานของแอร์ต้องอยู่ในโหมดคูล(cool)ต้องไม่อยู่ในระบบพัดลม(Fan) 
2 -ไฟแสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์ซึ่งอยู่ในตัวคอนเด็นชิ่งที่อยู่ด้านนอก (หรือเรียกอีกชื่อว่าคอยล์ร้อน) แสดงการทำงานหรือไม่

หากไฟแสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์ไม่โชว์..สังเกตที่หน้าปัดคอยเย็นตัวในห้อง (แต่ก็มีแอร์บางยี่ห้อไม่มีตำแหน่งนี้บอก ก็ต้องออกไปดูที่ตัวด้านนอก-คอยล์ร้อน)  
***ไฟแสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์ไม่โชว์ปัญหาอาจเกิดจากคอยล์ร้อนที่อยู่ด้านนอก นั่นคือ คอนเด็นชิ่งที่อยู่ด้านนอกไม่ทำงาน สาเหตุอาจมาจาก  แมคเนติคมีปัญหา สายไฟขาด หนูกัดสายไฟ หรือไม่ก็ตัวคอมเพรสเชอร์/CAP อาจมีปัญหา ปัญหานี้ต้องเรียกช่างแอร์บ้าน

แต่ถ้าไฟแสดงการทำงานของคอมเพรสเชอร์โชว์ปกติแต่แอร์ไม่เย็น เย็นไม่ฉ่ำ เมื่อตรวจสอบคอยล์ร้อนด้านนอกก็ทำงานปกติ(ให้ฟังจากเสียงการทำงานของพัดลม)   สาเหตุที่แอร์ไม่เย็น เย็นไม่ฉ่ำอาจเกิดจาก แอร์สกปรก น้ำยาแอร์ขาด  ปัญหานี้เรียกบริการซ่อมแอร์บ้าน-ล้างแอร์บ้านเช่นกัน
จะบอกช่างแอร์..อย่างไรดี
เวลาแจ้งซ่อมแอร์บ้าน แอร์ไม่เย็น คุณจะพบกับคำถามของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับอาการของแอร์  ดังนั้นคำตอบที่ควรเตรียมไว้ คือ  พัดลมแอร์ตัวในทำงานไหม? พัดลมตัวนอก(คอนเดนชิ่ง)ทำงานไหม? เพราะผู้ให้บริการจะเตรียมอุปกรณ์อะไหล่แอร์มาสำรองไว้ให้ถูกต้อง

2.รู้ทันช่างแอร์ก่อนซ่อมแอร์
ไหนๆ..ก็เรียกช่างแอร์มาแล้ว ถ้าแอร์ตัวนั้นไม่ได้ล้างทำความสะอาดใหญ่มานานเกิน6เดือน ก็ควรให้ช่างแอร์ล้างใหญ่ไปพร้อมกับตรวจเช็คสภาพแอร์ไปด้วย แต่ถ้าเพิ่งล้างแอร์ไปไม่ถึง3เดือนและล้างฟิลเตอร์ทุกสองสัปดาห์ ก็ควรให้ช่างเข้ามาตรวจเช็คว่าสาเหตุเกิดจากอะไร?

หากช่างบอกว่า ตรวจพบแล้ว

1-แอร์สกปรก สกปรกจริงไหม? ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ใช่ก็ต้องบอกเขาว่าพึ่งล้างไปไม่นานนี้เอง แต่ก็อย่างว่าบางทีบางคนก็ล้างแอร์ไม่ค่อยสะอาด ถ้าช่างบอกว่ามันสกปรกจริง ลองเอามืออังลมดูสิครับ ลมไม่ค่อยแรง เสียงอื้อๆ ก็ควรให้เขาล้าง ค่าล้างแอร์400-500 บาท (ก่อนจะให้ล้างแอร์ควรให้ช่างเช็คน้ำยาแอร์ด้วยนะครับว่าปกติไหม หากน้ำยาขาดก็ควรเติมให้เบ็ดเสร็จไปเลย)

2.น้ำยาแอร์ขาด  หากน้ำยาแอร์ขาดก็ต้องแสดงให้เห็นว่าขาดเท่าไหร่  โดยดูได้ที่เครื่องมือตรวจวัดของช่าง ที่เรียกว่า เกจวัดค่าแรงดัน และตัองวัดขณะที่เครื่อง(คอมเพรสเชอร์)กำลังเดินหรือทำงานอยู่ ไม่ใชตรวจวัดค่าตอนคอมเพรสเชอร์ไม่ได้ทำงาน

เกจมันจะบอกค่าว่า ขณะที่คอมเพรสเชอร์ทำงานปกติระดับน้ำยาแอร์มีแรงดันอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งหากตัวเลขบอกว่า 65-80 ก็ไม่ใช่สาเหตุของแอร์ไม่เย็น แต่หากรู้ว่าขาดเยอะ เช่น ตัวเลขแสดงแรงดันที่30-55 ก็ควรเติมให้ได้ระดับมาตรฐาน คือ 70-80ปอนด์ ราคาน้ำยาที่เติมที่เขาคิดกัน 20บาทต่อปอนด์  ถ้าน้ำยามันขาดจริงก็ไม่เสียดายเงินที่จะต้องเติม แต่บางทีช่างมักหาเศษไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ น้ำยาไม่ขาด หรือขาดนิดหน่อย บอกว่าขาดเยอะ ..เป็นสิ่งนี้ไม่ควรกระทำ