ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นของตัวเอง  โดยเฉพาะปัญหาทางด้านการเงิน
ทำงานเงินไม่พอใช้
 เงินไม่เคยเหลือในบัญชี 
ได้เงินมาก็ไม่พอที่จะใช้หนี้
หนี้บัตรเครดิตก็ไม่วางแผนชำระ
 ย่ำอยู่แบบนี้มานานหลายปี พยายามหลายวิถีทางเพื่อจะแก้ไขสภาพคล่องทางการเงินแต่ดูเหมือนยิ่งดิ้นนิ่งแน่น แต่ครั้นพอตัวเองตั้งสัจจะ ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้คำมั่นสัญญาต่างๆที่ให้ไว้ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ด้วยพลังแห่งการให้สัจจะนี้เองทำให้หลายๆสิ่งเริ่มง่ายขึ้น เบาขึ้น การเงินก็คล่องตัวมากขึ้น และเหลือเป็นเงินเก็บมากขึ้น.. ผมตั้งปณิธานไว้ว่า ผมจะไม่เป็นหนี้ใคร แม้แต่ธนาคารจะไม่มีวันได้กินดอกเบี้ยผม ซึ่งผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง..

เมื่อคิดจะทำสิ่งใด ต้องหาวิธีทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรี่องเงิน อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาทำลายกำลังใจและทำลายมิตรภาพ และเมื่อทำสำเร็จปัญหาการเงินจะไม่เกิดขึ้นอีกเลย.. วิธีการ 
1.ต้องตรงต่อเวลา มีความตั้งใจที่จะตรงต่อเวลา ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งโกหกว่าเป็นโน่นเป็นนี่เพื่อเป็นข้ออ้าง..ต้องหาวิธีทำให้ได้ตามที่ให้สัจจะไว้ เช่น เมื่อได้เงินมาก็ต้องรีบจ่ายแม้จะก่อนกำหนดก็ตาม  บางครั้งพลังแห่งสัจจะอาจทำให้คุณเจอปฏิหาร
เช่นตัวอย่างที่ผมเจอ ผมต้องเอาเงินเข้าธนาคารที่จ่ายเช็คไว้ และวันนั้นคือ วันสุดท้ายหากเข้าไม่ทันเช็คก็จะเด้ง ปรากฏว่าวันนั้นได้เงินมาแล้วแต่เอาเข้าไปเคลียร์เช็คไม่ทันเวลา ผมจึงโทรแจ้งไปยังธนาคารก่อนว่า ผมได้เงินมาแล้วแต่เอาเข้าไม่ทัน ธนาคารก็อนุโลมให้ผมเอาไปเข้าได้แต่ต้องตอนเช้าเลย  อีกเหตุการณ์คล้ายๆกันผมต้องเอาเงินเข้าไปเคลียร์ค่าบัตรเคดิตและเป็นวันสุดท้ายพอดี วันนั้นกว่าจะได้เงินมาก็บ่ายสามกว่าๆ ธนาคารก็อยู่ไกล แต่จะทันหรือไม่ทันก็ต้องไป โชคดีรถไม่ติด(เหลือเชื่อมาก)และก็ทันพอดีเป็นคนสุดท้าย
ตั้งแต่วันนั้นมา ผมไม่เคยพลาดในสิ่งที่ตั้งใจจะทำ ไม่เคยพลาดที่รับปากใครไว้ และหากเกิดปัญหาจริงๆก็ขอเลื่อนวัน และวันที่ขอเลื่อนอย่าผิดนัดเด็ดขาด คุณเคยได้ยินคำนี้ไหม "พูดผิดได้ แต่อย่าผิดคำพูด" (ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของคำนี้)

2.ต้องเลิกใช้เงินฟุ่มเฟือย ได้เงินมาให้เอาใช้หนี้ให้หมดก่อน กินและใช้จ่ายอย่างประหยัด ความสุขมันจะแตกต่างกัน
3.ซื้อสินค้าด้วยเงินสด แม้จะได้เครดิตก็ตาม เพราะจะทำให้เงินเหลือมากขึ้น แม้ลูกค้าจะให้เครดิตไม่มีส่วนลดเงินสด ก็ต้องรีบจ่ายทันทีภายใน1-2วัน เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณไม่มีหนี้  และคู่ค้าจะปฏิบัติต่อคุณด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น  

สร้างจิตใต้สำนึกให้รับรู้แต่สิ่งที่ดีงาม
จิตใต้สำนึก ไม่สามารถแยกแยะความดีความเลวได้ แต่จิตสำนึกสามารถแยกได้ หากเราเติมแต่สิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ถูกต้องลงในจิตใต้สำนึก ผลของการกระทำอันเกิดจากพลังจิตใต้สำนึกย่อมงอกเงยเป็นแต่สิ่งที่ดีงาม  และพลังขับเคลื่อนที่จะทำให้มีความสุขได้ก็คือ สาระที่อยู่ในจิตใต้สำนึก
Advertising