|
สัญญารับเหมาก่อสร้าง เส้นทางที่เดินสวนกัน
แต่ที่ไม่ดีคือ "ถูกก็หนีแพงก็หนี กลายเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับเจ้าของบ้าน" "สัญญาจ้างงานสร้างบ้าน" สัญญาว่าจ้างที่ดี จะเป็นเครื่องมือป้องกันการเกิดปัญหาระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของสัญญา ซึ่งท่านสามารถดาวโหลดแบบฟอร์มสัญญาจ้างงานสร้างบ้านในกูเกิล แล้วเลือกที่ท่านชอบ รายละเอียดที่สำคัญๆที่ควรมี พอสรุปได้ดังนี้ 1.รายละเอียดของงานที่จะทำขอบเขตของการทำงาน ต้องทำอะไรบ้าง ควรจะกำหนดให้ละเอียด เพราะหากไม่กำหนด ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน หากผู้ว่าจ้างไม่อาจกำหนดได้ก็ควรจะจ้างที่ปรึกษา-วิศวกร หรือ ให้ผู้รับเหมาแสดงรายละเอียดขั้นตอนการทำงานก่อนเซ็นต์สัญญา ในความเป็นจริงผู้รับเหมาคือผู้ที่ต้องรู้ขั้นตอนการทำงานทุกอย่างในงานที่จะทำ แต่ก็มีผู้รับเหมาบางท่านข้ามขั้นตอนบางอย่างไปซึ่งอาจเกิดความเสียหายได้ในภายหลัง การกำหนดขั้นตอนการทำงานเป็นสัญญาแนบท้ายที่ผู้รับเหมาต้องเซ็นต์รับรอง คลิกดูเนื้อหารายละเอียดงานที่ทำ 2.กำหนดสิทธิในการเปลี่ยนแปลง ทำใหม่ อันเกิดจากผู้รับเหมาไม่ทำตามขั้นตอนการทำงาน หรือทำงานผิดพลาดอันเป็นเหตุให้วัสดุเสียหาย โดยผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือแล้วแต่กำหนด 3.กำหนดสิทธิในการเปลี่ยนแปลง-เพิ่มเติมงานที่ทำ โดยผู้ว่าจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด 4.กำหนดวิธีการจ่ายเงิน เช่นจ่ายเงินเป็นงวดโดยแบ่งตามผลงาน เช่น งวดงานก่อฉาบเสร็จแล้ว 100% จ่าย80% ของงานนั้น 5.ในสัญญากำหนดระยะเวลาประกันผลงานและหักเงินประกัน 6.ข้อกำหนดการบอกเลิกสัญญาจ้างงาน เหตุและผล เช่น หยุดงานบ่อย ทำให้งานเสร็จไม่ตามกำหนด ทำงานผิดพลาดบ่อยจนเกิดความเสียหาย 7.กำหนดหักค่าเสียหายอันเกิดจากการทำงานผิดพลาดของผู้รับเหมา 8.อื่นๆ ที่เห็นว่าควรจะมี...ซึ่งผู้ว่าจ้างควรศีกษาให้ละเอียดก่อนทำสัญญา ***ทั้งนี้สัญญาต้องเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย*** "งานเล็กๆน้อยๆ เช่น ต่อเติมอาคาร ทำกันสาด เปลี่ยนหลังคา ต่อเติมห้อง จำเป็นต้องทำสัญญาว่าจ้างไหม?" งานที่ทำไม่เกิน 7วัน ส่วนตัวแล้วไม่เคยทำสัญญา แต่ต้องทำรายการให้ผู้รับเหมาทราบเพื่อเตือนสติ ไม่ปล่อยให้งานล่าช้า เช่น ตัวอย่าง งานต่อเติมกันสาด ผู้รับเหมากำหนดวันทำงานแล้วเสร็จ 4วัน รับเฉพาะค่าแรง 2หมื่นบาท รายการทำงาน รับเหมาทำกันสาด ข้าพเจ้า................................................................. เบอร์โทร................................... ผู้รับเหมางาน....ต่อเติมทำกันสาด.พร้อมเครื่องมือใช้ในการทำงาน....กำหนดการเสร็จ 4 วัน รับค่าจ้างเฉพาะค่าแรง เป็นเงิน 2 หมื่นบาทถ้วน จำนวนคนทำงาน 2 คน(ผู้รับเหมา+ลูกน้อง1คน) แบงการเบิกจ่าย 3 งวด ดังนี้ งวดที่1 เริ่มงานอย่างน้อย 1วัน ............... เบิก 5000บาท........... ผู้รับเงิน.........................วันที่.................. งวดที่2 งานเสร็จสิ้น 100%...... ........... เบิก15,000บาท........... ผู้รับเงิน....................... .วันที่................
เอาเข้าจริง กว่างานจะเสร็จ ใช้เวลา 6 วัน เพราะ มาวันหยุดวัน วันแรกมาครึ่งวันเตรียมงานทาสีเหล็ก วันที่2ขึ้นโครงหลังคา วันที่ 3 มุงหลังคา วันที่ 4 เก็บงานครึ่งวัน ก็เข้าใจที่เขาเป็นเช่นนั้น จึงเป็นเช่นนี้ และรับได้ ผู้รับเหมาบางครั้งคิดแต่ว่ากลัวไม่ได้งานจึงรีบรับงานไว้ก่อน หรือ อาจเพราะต้องการเงินจึงรับงาน แล้วเบิก และวิ่งไล่งานที่ค้าง หากเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่บ้านทุกวัน ก็คงจะรับแบบนี้ไม่ได้ จึงควรกำหนดรายละเอียดให้มากกว่านี้ เช่น กำหนดให้เข้าทำงานทุกวัน วิเคราะห์ ค่าแรงทำงาน 2หมื่นบาทแพงไหม? 1.จ่ายให้ลูกน้อง 1 คน 1,000 บาท/วัน (คิดให้มากสุด) 2.ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง+ค่าเครื่องมือ 1,000 บาท/วัน 3.คงเหลือให้ผู้รับเหมา 20,000-8,000บาท =12,000 บาท คุณคิดว่าควรจะจ้างเท่าไหร่? ![]() ![]() แต่ที่ไม่ดีคือ "ถูกก็หนีแพงก็หนี กลายเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับเจ้าของบ้าน" ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะ ไม่ได้ทำสัญญา แต่ทำสัญญาแล้วก็ยังโกงกันได้ สิ่งที่จะแนะนำได้ตรงนี้คือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าจ้าง หรือ ผู้รับเหมา ควรจะคุยกันให้ละเอียดทุกแง่มุมของงานที่ทำ และทำเป็นสัญญาไว้ให้ชัดเจน สัญญาต้องไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ไม่จ่ายเงินนอกสัญญาไม่ว่ากรณีใดๆ แน่นอนคนที่คิดจะโกงจะไม่กล้าทำสัญญา หรือโกงทั้งที่มีสัญญาแต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นก็น้อยลง การทำสัญญายังลดความเสียหายได้ในระดับหนึ่ง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างทำผิดสัญญาเอง เช่น เพิ่มหรือเปลี่ยนงานนอกสัญญาในราคาเดิมอันไม่ใช่ความผิดของผู้รับเหมา จ่ายเงินไม่ตรงตามกำหนด หรือ จ่ายเงินมากกว่าสัญญาที่ทำไว้ อันเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างทิ้งงาน Advertising
|
House and Building แบบบ้าน-แบบอาคาร